1. Advice
  2. ข่าวอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย
  3. ข่าวอสังหาริมทรัพย์ประเทศไทย ประจำวันที่ 7 - 11 สิงหาคม 2566

ข่าวอสังหาริมทรัพย์ประเทศไทย ประจำวันที่ 7 - 11 สิงหาคม 2566

KaiBaanThai
โดย KaiBaanThai
Niratchaphon Parnchoem
แก้ไขโดย Niratchaphon Parnchoem
Wacharaporn Laroeng
ตรวจสอบโดย Wacharaporn Laroeng
แอชตันอโศก

ผู้เสียหายจากโครงการ Ashton Asoke กว่า 20 รายรวมตัวเพื่อร้องเรียนกับสคบ. มูลค่าความเสียหายพุ่งสูงเกือบ 70 ล้านบาท

ลูกบ้านในโครงการ “แอชตัน อโศก” เข้าร้องเรียนกับสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) หลังศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งถอดถอนใบอนุญาต การก่อสร้างอาคาร มีผู้เสียหายกว่า 20 รายที่ต้องการขอยกเลิกสัญญาพร้อมคืนเงินเต็มจำนวนและดอกเบี้ย โดยในขณะนี้มีการแจ้งความร้องทุกข์เป็นมูลค่าสูงถึง 69 ล้านบาท ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความเพิ่มเติมจนกว่าบริษัท อนันดาดีเวลลอปเม้นท์ ที่เป็นผู้ดูแลโครงการจะพิจารณาแนวทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน อย่างไรก็ตามคาดว่าในวันที่ 23 สิงหาคมนี้จะมีการเสนอแนวทางแก้ไข 5 แนวทางร่วมกับผู้เสียหาย ได้แก่ 

1. การยื่นขอใบอนุญาตก่อสร้างใหม่ โดยการหาที่ดินเพิ่ม

2. เสนอการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องผ่านสำนักงานโยธาไปยังกรมโยธาธิการและผังเมืองกระทรวงมหาดไทย เพื่อส่งต่อไปยัง ครม.

3. เสนอการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องผ่าน รฟม. เพื่อนส่งต่อไปยัง ครม.

4. ทบทวนสิทธิที่ดินบริเวณทางเข้า-ออกจาก รฟม. ก่อนการเวนคืน
5. ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองให้มีการพิจารณาคดีใหม่อีกครั้ง

ที่มา: https://www.thansettakij.com/real-estate/573047

กทม. เตรียมรื้อกฎหมายการอนุญาตก่อสร้างอาคารสูง หลังเกิดปัญหากับโครงการแอชตัน อโศก

เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. นำโดยคณะบริการกทม. ได้มีการประชุมหารือเกี่ยวกับความคืบหน้าของโครงการแอชตัน อโศก ที่กำลังมีปัญหาในขณะนี้ กรมโยธาธิการได้ประชุมสรุปมติตั้งคณะกรรมปรับปรุงหลักเกณฑ์การอนุญาตก่อสร้างอาคารสูงและอาคารขนาดใหญ่พิเศษ ซึ่งจะมีการตรวจสอบข้อมูลและกระบวนการทั้งหมด โดยกรณีคดีพิพาทของโครงการ แอชตัน อโศก กำลังอยู่ในระหว่างออกคำสั่งขออนุญาตก่อสร้างใหม่ตามมาตรา 41 นอกจากนี้ผู้ว่าฯ กทม. ยังกล่าวถึงการทุจริตในกระบวนการอนุญาตก่อสร้างอีกด้วย โดยได้รับปากว่าจะดำเนินการหากพบหลักฐานทุจริต นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยเกี่ยวกับการส่งเสริมการขอใบอนุญาตก่อสร้างทางออนไลน์และแชร์ข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับผังเมืองของกรุงเทพฯ โดยเน้นแนวทางการพัฒนาที่มีความชัดเจนและเป็นขั้นเป็นต้น

ที่มา: https://www.thansettakij.com/real-estate/572808

ผลักดัน “Pet Residence” เป็นเทรนด์มาแรง! หลังตัวเลขคนเลี้ยงสัตว์พุ่งสูง สวนทางกับอัตราเด็กเกิดใหม่

คอนโดเลี้ยงแมว

ในปัจจุบันนี้ประเทศไทยมีแนวโน้มที่ผู้คนหันมาเลี้ยงสัตว์มากขึ้น โดยมีจำนวนครัวเรือนที่มีสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้นจาก 1.3 ล้านตัวในปี 2560 มาเป็น 1.45 ล้านตัวในปี 2564 ซึ่งส่วนทางกับอัตราเด็กเกิดใหม่ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดีนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์กำลังคว้าโอกาสทางตลาดแนวใหม่ โดยมุ่งเน้นไปที่ “Pet Residence” คอนโดมิเนียมเป็นมิตรต่อสัตว์เลี้ยง ที่รองรับทั้งการอยู่อาศัยทั้งคนและเพื่อนรักขนปุยโดยมีโซนและสิ่งอำนวยความสะดวกเฉพาะให้กับน้อง ๆ ซึ่งผู้พัฒนารายใหญ่ในด้านนี้ ได้แก่ โครงการของออริจิ้นแคมป์, โครงการวิสซ์ดอม, เดอะ ฟอเรสเทียส์ และดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์ เป็นต้น ในขณะเดียวกัน CEO ของเมเจอร์ดีเวลลอปเม้นท์ ได้กล่าวถึงการขยายตัวของตลาดธุรกิจสัตว์เลี้ยง โดยได้มีการคาดการณ์ว่าจะมีอัตราเติบโตทั่วโลกต่อปีอยู่ที่ 7.2% และ 8.4% ของตลาดในประเทศไทย และมูลค่าทางตลาดอาจแตะสูงถึง 6.67 หมื่นล้านบาทในปี 2569 นอกจากนี้ผลการสำรวจโดยวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล เผยว่าเจ้าของสัตว์เลี้ยง 80.7% มีสถานะ “โสด” ในขณะเดียวกัน 19.3% มีสถานะสมรส โดยกลุ่มตัวอย่างประมาณ 18% ได้บอกว่า เลี้ยงสัตว์เพื่อช่วยเหลือและช่วยบำบัดรักษา (Pet Healing) อีกทั้งสัตว์เลี้ยงยังมีประโยชน์ เช่น เพิ่มความสุข ทำให้สุขภาพจิตดีขึ้น จากการเพิ่มขึ้นของสารออกซิโทซินถึง 20% เลยทีเดียว

ที่มา: https://www.bangkokbiznews.com/property/1082762

โครงการบ้านหรูในตลาดเกิดใหม่ได้รับแรงฉุด เนื่องจากกำลังซื้อซบเซา ส่งผลให้อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ต้องปรับตัว

ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยเผชิญกับกำลังซื้อที่ซบเซาอย่างหนักจากแนวโน้มการส่งออกที่ติดลบ หนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 90.6% รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น และความไม่แน่นอนของสถานการณ์ทางการเมือง ส่งผลให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ได้มีการชะลอการเปิดโครงการใหม่โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียม และเพื่อรับมือกับวิกฤติการณ์ครั้งนี้นักพัฒนาจึงกระจายโครงการบ้านหรูที่เรียกว่า “Low Projects” เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่พร้อมสำหรับการเข้าอยู่ อีกทั้งยังมุ่งเน้นไปยังตลาด EEC และพื้นที่ท่องเที่ยวอย่าง ภูเก็ต เพื่อกระตุ้นยอดขายและกระจายรายได้ ในขณะที่ครึ่งปีแรกของปี 2565 ตลาดมีการเปิดตัวโครงการจำนวน 179 โครงการ แบ่งเป็น 24,167 ยูนิต มูลค่ารวม 6.8 หมื่นล้านบาท โดยในปีนี้ตัวเลขดังกล่าวลดลง 6.2%, 21% และ 12% ตามลำดับเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ที่มา: https://www.bangkokbiznews.com/property/1082337

ความไม่แน่นอนทางเศรษกิจ-การเมืองทำให้แนวโน้มตลาดเปลี่ยน ฉุดคนชะลอการซื้อบ้าน-คอนโด

ท่ามกลางความผันผวนทางเศรษฐกิจและความไม่แน่นอนของสถานการณ์ทางการเมือง ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์เผชิญกับความท้าทาย เนื่องจากผู้ซื้อส่วนใหญ่ใช้เวลาในการตัดสินใจอย่างระมักระวังและใช้เวลาในการตัดสินใจนานขึ้น อย่างไรก้ตาม CEO ของบริษัท พราวเอรียลเอสเตท ได้กล่าวว่า แม้ขณะนี้กำลังซื้อยังคงมีอยู่ แต่ผู้ซื้อใช้เวลาศึกษาข้อมูลและติดตามสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจมากขึ้น มีการตัดสินใจที่รอบคอบมากขึ้นโดยเน้นวิธีการรอดู ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวจะเห็นได้ชัดเจนจากโครงการระดับลักซ์ชัวรี ซึ่งกระบวนการตัดสินใจได้ขยายจากไม่กี่เดือนสู่การเยี่ยมชมบ้านหลายครั้งมากขึ้น เนื่องจากผู้ซื้อส่วนใหญ่มองหาบ้านเพื่อการอยู่อาศัยมากกว่าการลงทุน สร้างความเปลี่ยนแปลงในการเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่มั่นคงมากขึ้น ดังนั้น พราว เรียลเอสเตท จึงมุ่งเน้นกลยุทธ์การตลาดที่ตรงเป้าหมาย รวมถึงขยายตลาดสู่ต่างประเทศ เช่น เมียนมาร์ โครงการรอมคอนแวนต์เมื่อเร็ว ๆ นี้ นอกจากนี้ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 พราว เรียลเอสเตท ได้รายงานการเติบโตของรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้นและความสามารถในการทำกำไรได้ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจและปรับปรุงการนำเสนอโครงการเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายต่อไป

ที่มา: https://www.bangkokbiznews.com/property/1082983

บทความถัดไป
ข่าวอสังหาริมทรัพย์ประเทศไทย ประจำวันที่ 21 - 25 สิงหาคม 2566
  • Fazwaz Group Sites www.fazwaz.cn www.fazwaz.ru www.fazwaz.fr www.fazwaz.de www.fazwaz.es