"🌞🏠 ตลาดอสังหาฯ ภูเก็ต เต็มไปด้วยความเป็นไปได้ในการค้นหาบ้านในฝันของคุณ! 🌺✨"
ตลาดอสังหาฯ ภูเก็ตกลับมาคึกคักมากในปี 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งจากข้อมูลการซื้อขายพบว่าผู้ซื้อให้ความสนใจอสังหาฯ ประเภท Off-Plan เพิ่มขึ้นถึง 20% แสดงให้เห็นว่าผู้ซื้ออยากได้ของใหม่มากกว่าของมือสอง ในขณะที่บ้านและคอนโดภูเก็ตมือสองมีตัวเลขลดลง 5% ในขณะที่อสังหาฯ มือหนึ่งประเภท Developer Unit ราคาเฉลี่ยลดลงครึ่งหนึ่งจาก 9.5 ล้านบาทเหลือ 4.9 ล้านบาท นับเป็นสิ่งที่น่าจับตามองสำหรับนักลงทุนที่ต้องการหายูนิตใหม่เพื่อการลงทุน ต่อกันที่ยอดขายคอนโดในภูเก็ตในปีที่ผ่านมามียอดขายสูงสุดถึง 65 ยูนิตในไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 และตัวเลขความสนใจในอสังหาฯ ภูเก็ตเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดตั้งแต่ปี 2561 หมายความว่าภูเก็ตยังคงเป็นตัวเลือกการลงทุนที่ดีเสมอมา อีกทั้งยังเป็นตัวเลือกต้น ๆ สำหรับบ้านหลังที่สองของชาวต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลกอีกด้วยค่ะ
ในหัวข้อนี้ Kaibaanthai Insight จะมาพูดถึงทิศทางของตลาดบ้านภูเก็ตตั้งแต่ปี 2561 ถึง 2566 กันดีกว่า นับเป็นการเดินทางของตลาดที่ยอดเยี่ยมและน่าสนใจมาก ๆ โดยเฉพาะตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมาเหมือนมีสัญญาณคล้ายกับทุกคนกำลังพูดว่า “จะต้องมีบ้านในภูเก็ตให้ได้!” ด้วยตัวเลขอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นกว่า 60% จากปีก่อนหน้า ถึงแม้ในปีถัดไปจะเกิดแรงกระแทกต่อตลาดอย่างหนัก มีผู้คนจำนวนมากที่ถอยห่างจากตลาดไป และความสนใจก็ลดลงกว่าครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว ถือเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างยากลำบากของอุตสาหกรรมอสังหาฯ ทั่วโลกที่ไม่ใช่แค่ภูเก็ต แต่อย่างไรก็ตามในปี 2563 เป็นต้นมาตลาดเริ่มฟื้นตัวและดูมีชีวิตชีวามากขึ้น โดยเฉพาะในปี 2565 อสังหาฯ ภูเก็ตมีความต้องการเพิ่มขึ้นถึงสองเท่า และในปี 2566 มีความต้องการเพิ่มขึ้นสูงกว่า 59%
คอนโดมิเนียมเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ซื้อ โดยเฉพาะในช่วงปลายปี 2565 เป็นช่วงที่ยอดขายพุ่งสูงขึ้นในทำเลเชิงทะเล ราไวย์ และป่าตอง ซึ่งในทำเลเชิงทะเลที่มียูนิตใหม่มากมายที่ประกาศขายกับเราเพิ่มสูงขึ้นในปี 2566 ถ้าจะอธิบายให้เห็นภาพว่าตลาดบ้านและคอนโดภูเก็ตมีความคึกคักขนาดไหนก็ต้องบอกเลยว่า จากเดิมที่มียูนิตประกาศขาย “เยอะมาก” อยู่แล้วในปี 2561 กลายมาเป็น “เยอะมากแบบตะโกน” กันเลยทีเดียวค่ะ
ในมุมมองของฝั่งอุปสงค์ ราคากลางของบ้านภูเก็ต (Median Price) เต็มไปด้วยความน่าสนใจ นับตั้งแต่ปี 2561 บ้านแนวราบมีราคากลางแพงกว่าคอนโดค่อนข้างมากทีเดียวค่ะ แต่ถัดมาในปี 2022 แนวโน้มตลาดก็มีทิศทางเปลี่ยนไป โดยทั้งบ้านภูเก็ตและคอนโดภูเก็ตเกือบจะมีราคากลางเฉลี่ยเท่ากัน แต่อย่างไรก็ตามในปี 2566 ราคากลางของบ้านก็สูงขึ้นอีกครั้งและเกือบจะแตะระดับเดียวกับในปี 2561 ในทางกลับกันราคาเฉลี่ย (Average Price) ของบ้านแนวราบในปี 2563 พุ่งสูงขึ้นอย่างมากแล้วดิ่งลงมาในปี 2565 และเพียงหนึ่งปีต่อมาก็พุ่งสูงขึ้นไปอีกครั้ง โดยราคาเฉลี่ยบ้านเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าจากปีก่อน
ในขณะที่ฝั่งอุปทานที่มีการลงประกาศขายบ้านและคอนโดภูเก็ตบนเว็บไซต์ของเราพบว่าราคาสูงสุดอยู่ในปี 2565 หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ ไต่ระดับลงมาในรายไตรมาสในหนึ่งปีถัดมาแต่ระดับราคาก็ยังคงสูงกว่าในปี 2561 - 2564 พอสมควร แน่นอนว่าตลาดอสังหาฯ ไม่มีอะไรคงที่ตลอดไป มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ตามกลไกของตลาดและปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบ ไม่ว่าจะในระดับท้องถิ่น ประเทศ และระดับโลก รวมไปถึงพฤติกรรมของผู้ซื้อที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย และแม้กระทั่งแนวโน้มของไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ และเทคโนโลยีที่เกิดขึ้น
รายงานการซื้อขายจริงมีแนวโน้มที่ค่อนข้างน่าสนใจอยู่ค่ะ เริ่มต้นด้วยยอดขายในช่วงต้นปี 2565 มีสัดส่วนการขายคอนโดมากถึง 79% ของยอดขายทั้งหมด แต่เมื่อถึงช่วงสิ้นปีช่องว่างระหว่างยอดขายคอนโดภูเก็ตและบ้านภูเก็ตก็แคบลง หมายความว่าผู้คนหันมาซื้อบ้านแนวราบมากขึ้นนั่นเองค่ะ และเมื่อพิจารณาในด้านราคาขาย ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 แตะระดับสูงสุดที่ 12.78 ล้านบาท ก่อนที่จะลดลงเหลือ 4.8 ล้านบาทในไตรมาสที่ 3 ของปีถัดมา และราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรสูงสุดอยู่ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2566 สิ่งที่น่าสนใจคือผู้ซื้อในตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตนิยมยูนิตใหม่เอี่ยมอย่าง Off-Plan แต่ในปี 2566 ยูนิตมือสองก็เป็นผู้ครองยอดขายส่วนใหญ่ในตลาด
ใครอยู่ในตลาดบ้าง?: ผู้ซื้อจากหลากหลายประเทศทั่วโลกหลั่งไหลเข้ามาในตลาดบ้านและคอนโดภูเก็ต ได้แก่ จีน, รัสเซีย, ออสเตรเลีย, สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย ซึ่งมีทั้งกลุ่มนักลงทุนและซื้อไว้เพื่อเป็นบ้านหลังที่สอง พูดได้เลยว่าอสังหาฯ ภูเก็ตเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางเลยทีเดียวค่ะ แล้วเพราะอะไรถึงทำให้ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกมารวมตัวกันที่ภูเก็ต? ผู้ซื้อจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกให้น้ำหนักความสำคัญกับเหตุผลในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตไม่เหมือนกัน ได้แก่ ซื้อเพื่อการลงทุน, ซื้อเพื่อเป็นบ้านพักตากอากาศ และซื้อเพื่อการใช้งานส่วนตัว
ชาวออสซี่ให้ความสำคัญกับการลงทุนมาก ดังนั้นส่วนใหญ่ของชาวออสซี่จึงซื้ออสังหาฯ ภูเก็ตไปเพื่อการลงทุนถึง 41% แต่ก็ยังคงมีคนที่ซื้อไว้สำหรับเป็นบ้านพักตากอากาศ 25% ในขณะที่ชาวรัสเซียซื้อไปเพื่อเป็นบ้านพักตากอากาศมากกว่า 36% และมีบางส่วนที่ซื้อไปเพื่อการลงทุนประมาณ 38% โดยคนไทยซื้อบ้านหรือคอนโดเพื่อการใช้งานส่วนตัวเกินกว่า 50% ซึ่งชาวอังกฤษเอนเอียงไปทางบ้านพักตากอากาศและการใช้งานส่วนตัวในสัดส่วนเกือบเท่า ๆ กัน แต่ชาวอเมริกันจะซื้อไว้เพื่อการใช้งานส่วนตัวเสียมากกว่า
คุณคิดว่าปัจจัยใดที่อยู่เบื้องหลังช่องว่างของความแตกต่างเหล่านี้? ซึ่งมันอาจเป็นเรื่องของราคา ความพร้อมใช้งาน หรือแม้แต่ความต้องการและความคาดหวังที่เป็นปัจเจกของตัวผู้ซื้อก็ได้ทั้งนั้น ตัวอย่างเช่น ความสนใจสูงจากกลุ่มคนไทยอาจไม่ได้นำไปสู่การซื้อขายจริงเสมอไป เนื่องจากราคาที่คาดหวังอาจไม่ตรงกับความเป็นจริง หรือปัญหาความพร้อมในด้านทำเล และประเภทของอสังหาฯ ที่ต้องการด้วยนั่นเองค่ะ
หากเปรียบเทียบความสนใจจากผู้ซื้อและยอดขายจริง จะพบว่าทำเลเชิงทะเลและศรีสุนทรเป็นทำเลสุดฮอตของภูเก็ต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชิงทะเลมีพื้นที่คอมมูนิตี้และบีชคลับระดับพรีเมียมหลายแห่งที่ช่วยดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดี และได้รับความนิยมในหมู่ผู้ซื้อชาวรัสเซียและชาวไทยในช่วงปี 2566 ตามติดมาด้วยทำเลศรีสุนทรที่มีความเงียบสงบมากกว่าและได้รับความสนใจอย่างมากจากชาวจีนและเยอรมัน
ในด้านของราคาขาย คอนโดในเชิงทะเลมีระดับราคาเฉลี่ยที่สามารถเข้าถึงได้ในวงกว้าง ในขณะที่พื้นที่ศรีสุนทรมีความโดดเด่นในด้านการลงทุนมูลค่าสูง โดยเฉพาะในส่วนของวิลล่าหรู ราคาต่อตารางเมตรในสองทำเลดังกล่าวบ่งชี้ว่าเป็นการทำเลแห่งการลงทุนที่ค่อนข้างน่าสนใจ หากคุณอ่านมาถึงตรงนี้และสนใจอยากลงทุนอสังหาฯ ภูเก็ต ไม่ว่าจะเป็นคอนโดภูเก็ตสุดหรู หรือแม้แต่บ้านภูเก็ต ราคาไม่เกิน 2.5 ล้านบาท เราก็มีให้คุณเลือกสรรเพียงแค่คลิกปุ่มด้านล่างนี้เท่านั้น!
บ้านและคอนโดในฝันรอคุณอยู่